“บัวขาว ปะทะ มิโนรุ คิมูระ“
วันที่ 23 มีนาคม 2567 จบไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับถ่ายทอดสดมวย RIZIN Landmark 9 การชกระหว่าง “บัวขาว ปะทะ มิโนรุ คิมูระ” ซึ่งบัวขาวชนะน็อกมิโนรุ คิมูระ ไปในยกที่ 2 เจ้าตัวถึงกับบอกเกือบไม่รอดในยกแรก ยอมรับว่าคู่ชกหมัดหนักที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา แต่ก็ชนะได้ในที่สุด
ในศึกดวลเดือดระหว่าง บัวขาว พบ คิมูระ ในยกแรก บัวขาวเกือบเสียท่า หลังโดนอาวุธพายุหมัดของ มิโนรุ คิมูระ เจ้าถิ่นไปพอสมควร ก่อนที่จะสามารถพลิกกลับมาชนะได้ในยกที่ 2
งานนี้หลังผลการแข่งขันออกมา บัวขาว โพสต์ทางเฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ถึงการชกในครั้งนี้ ยอมรับว่าอาการหนักเหมือนกัน โโยระบุเอาไว้ว่า
บัวขาวชนะน็อกยกที่2 ยอมรับว่ายกแรก พายุหมัดคู่ชกหนักมาก มีอาการเหมือนกัน เพราะเขาหลังชกมาหนักถึง 80 กว่าkg แต่ก็ผ่านมาได้ ตั้งแต่ชกมาไอ่หมอนี่หมัดหนักสุดละครับ ยกแรกเกือบไม่รอด
นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก RIZIN Fighting Federation ได้โพสต์คลิปวินาทีคว้าชัยชนะของบัวขาว หลังชนะน็อกไปในยกที่ 2 ในคลิปมิโนรุ คิมูระ นักชกเจ้าถิ่นร่วงลงไปนั่งอยู่กับพื้นโดยพี่เลี้ยงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการ
ด้านบัวขาวขึ้นไปนั่งอยู่บนกำแพงขอบสนามก่อนชูแขนขึ้นหลังได้รับชัยชนะมาอย่างสวยงาม ในขณะที่กองเชียร์พากันเฮลั่นสนั่นพื้นที่
มาส่องประวัติ บัวขาว
ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ จ.ม. บ.ช. หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ชื่อในวงการว่า บัวขาว [2] เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักมวยไทย เชื้อสายกูย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ข้อมูลส่วนสูงในศึกRWSอยู่ที่ 178 เซนติเมตร น้ำหนัก 72.9 กิโลกรัม บัวขาวจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง ซามูไร อโยธยา[3] และใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟต์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม[4] ซึ่งได้เป็นแชมป์ของการแข่งขัน
บัวขาวเข้าแข่งขันไทยไฟต์อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยครั้งนี้ได้พบกับเมาโร เซียรา ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวอิตาลี และบัวขาวเป็นฝ่ายชนะน็อค
นอกเหนือจากกีฬาชกมวยแล้ว บัวขาวยังเคยเล่นฟุตบอลอาชีพในไทยลีก ดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบค ฤดูกาล 2014 ในตำแหน่งศูนย์หน้า
ปัจจุบันบัวขาวยังรับราชการทหารที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนและจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว เป็นบุตรของนายเล็ง กับนางปาน (เสียชีวิตแล้ว) บัญชาเมฆ คุณพ่อเป็นชาวอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนคุณแม่เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ โดยครอบครัวบัญชาเมฆ มีบุตร 5 คน ชาย 2 หญิง 3 โดยบัวขาว เป็นบุตรคนที่ 4[6] เกิดและเริ่มชีวิตอาชีพมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น เขาได้เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี บัวขาวได้รับเข็มขัดแชมป์มาครองเป็นจำนวนมากภายหลังเริ่มอาชีพมวยไทยที่กรุงเทพ ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชินักชกชาวญี่ปุ่น
พ.ศ. 2547 ชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชนะ จอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และมาซาโตะแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และในปีต่อมา บัวขาวเกือบที่จะรักษาแชมป์รายการ เค-วัน ได้ โดยแพ้คะแนน แอนดี้ ซาวเวอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา
พ.ศ. 2549 เข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง[7] โดยเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย
พ.ศ. 2550 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายโดยชนะคะแนน ไนกีย์ “เดอะ เนเจอรัล” โฮลต์ซเคน นักมวยชาวฮอลแลนด์
พ.ศ. 2551 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยบัวขาวแพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น แฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวยหรือไม่ แต่พิจารณาแล้วพบว่าบัวขาวแพ้น็อกจริง ๆ ด้วยเข่าของซาโตะทำให้จุกและโดนหมัดฮุคเข้ากกหูสลบคาเวที นับเป็นความเสียใจของผู้ชมชาวไทยครั้งหนึ่ง
พ.ศ. 2552 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้แอนดี้ ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน บัวขาวถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน แฟนมวยเควันต่างพากันเห็นใจบัวขาวโดยมีหลักฐานคือผลโหวตนักสู้เค-วันแม็กซ์ของปีนี้ บัวขาวได้เป็นอันดับ 2 ด้อยกว่าเพียงจอร์จิโอ เปโตรเซียน ผู้เป็นแชมป์รายการเควันปีนี้เท่านั้น
พ.ศ. 2554 เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค ไมเคิล พิซิเทโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และได้พบกับแฟร้งค์ จอร์จี้ จากประเทศออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้[8] ซึ่งบัวขาวเป็นฝ่ายชนะ และครองแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้
พ.ศ. 2555 ตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้หายตัวออกจากค่ายอย่างเป็นปริศนา หลังจากนั้นไม่นาน บัวขาวก็ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยว่า ที่ต้องหนีออกจากค่ายเนื่องจากไม่พอใจในหลาย ๆ อย่าง และต้องการเป็นอิสระ ซึ่งทางค่าย ป.ประมุขก็ได้เผยว่า หากบัวขาวขึ้นชกต่อไป จะถือว่าผิดสัญญาตามกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง แต่ในในวันที่ 17 เมษายน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ในนัดเปิดรายการ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม ปัจจุบัน ทำค่ายมวยที่บ้านเกิดบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบจ.สุรินทร์ “ค่ายบัญชาเมฆ”เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษาศิลปะแม่ไม้มวยไทย
วุฒิการศึกษา
สำเร็จการศึกษา บริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) สาขาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปีการศึกษา 2559
ในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2559 ณ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร (วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560)
สำเร็จการศึกษา รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) สาขาวิชาการบริหารสาธารณะ (ภาคพิเศษ) วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปีการศึกษา 2565